Friday, April 19, 2024
HomeAuto TestTest DriveTestdrive: Ford Focus Eco Boost Turbo VS Honda Civic Vtec turbo คู่แข่งตัวแรง...

Testdrive: Ford Focus Eco Boost Turbo VS Honda Civic Vtec turbo คู่แข่งตัวแรง ในพิกัด 1.5 ลิตร เทอร์โบ

ถึงวาระที่จะได้ปฏิบัติการพิสูจน์ความแรงกับรถธงจาก 2 ค่ายผู้ผลิต ระหว่าง New Ford Focus 1.5L Ecoboost Turbo Sportกับ ALL NEW HONDA CIVIC 1.5 Vtec Turbo พิกัดความแรงจากเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ของรถคันไหนมีสมรรถนะที่โดนใจคุณ คำตอบทั้งหมดพร้อมเสริ์ฟให้ทุกท่านได้รับชมครับ
 …

มาเริ่มที่ขนาดของรถธงฝั่งฮอนด้ากันก่อนครับ ALL NEW HONDA CIVIC 1.5 Vtec Turbo มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่รุ่นคือรุ่น Vtec Turbo และ Vtec Turbo RS ในรูปแบบของรถพรีเมี่ยมซีดาน ขนาดความยาว 4,630 มม. กว้าง 1,799 มม. และสูง 1,416 มม.

สำหรับรถธงจากค่ายฟอร์ด New Ford Focus 1.5L Ecoboost Turbo Sport  มาในรูปแบบของรถแฮทแบค 5 ประตู ขนาดความยาว 4,358 มม. กว้าง 1,823 มม. และสูง 1,469 มม.

Honda Civic Turbo จัดวางโครงสร้างโดยเน้นการออกแบบให้มีความสปอร์ตล้ำสมัย ด้วยรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวและหรูหราจากเส้นสายด้านข้างตัวรถคมชัด ดุดันด้วยกระจังหน้าวางตัวเป็นแนวยาวเต็มกรอบ เชื่อมต่อกับไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างในเวลากลางวันแบบ LED

Ford Focus Ecoboost เน้นการออกแบบที่ปราณีต กระโปรงหน้าดีไซน์ใหม่เชื่อมต่อไปหน้ากระจังแบบสี่เหลี่ยมคางหมูลวดลายรังผึ้งอันเป็นเอกลักษณ์ ไฟหน้ายาวกว่ารุ่นเดิมและเรียวขึ้น ติดตั้งไฟกลางวันรวมไว้ในโคมเดียวพร้อมไฟตัดหมอกที่มุมกันชนทั้ง 2 ฝั่ง

ด้านท้ายของ Honda Civic Turbo ได้รับการออกแบบให้โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยไฟท้ายรูปทรงตัว C แบบ LED ในรุ่น RS ติดตั้งสปอยเลอร์หลังบนฝากระโปรงพร้อมพร้อมโลโก้สีแดง ระบบคายไอเสียเป็นแบบท่อไอเสียคู่ที่ใช้งานได้จริงทั้งฝั่งซ้ายและขวา ล้ออัลลอยใช้ขนาด 17 นิ้ว หุ้มยางขนาด 215/50

ในส่วนของ Ford Focus Ecoboost ฝากระโปรงท้ายและไฟท้ายก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่ทำให้ดีไซน์ดูแปลกตาไปกว่าเดิม ทั้งยังเติมแต่งความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ มาพร้อมล้ออัลลอยหุ้มยางขนาด 215/50R17

ห้องโดยสารของ Honda Civic Turbo เลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง ออกแบบเส้นสายในสไตล์สปอร์ตพรีเมี่ยม พื้นที่ภายในกว้างขวางสะดวกสบายใกล้เคียงกับรถยนต์ในระดับ D-Segment เน้นภายในสีดำและใช้วัสดุหุ้มเบาะนั่งเป็นหนังแท้ เบาะนั่งผู้ขับขี่สามารถปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง ส่วนผู้โดยสารตอนหน้าปรับได้ 4 ทิศทาง

Ford Focus Ecoboost ออกแบบห้องโดยสารให้ดูเรียบง่าย ติดตั้งวัสดุซับเสียงคุณภาพสูงเพื่อความเงียบ กระจกไฟฟ้าทุกบานเป็นแบบอัตโนมัติ ภายในตกแต่งด้วยสี Piano Black ทั้งแผงข้างและเบาะนั่งหุ้มหนังแท้ ในส่วนเบาะหลังปรับพับได้เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระ

ชุดแดชบอร์ดของ Honda Civic Turbo ดูทันสมัยด้วยระบบดิจิตอลในรูปแบบของมาตรวัดและจอแสดงข้อมูลแบบ TFT  พวงมาลัยเป็นแบบมัลติฟังค์ชั่นมีทั้งปุ่มควบคุมเครื่องเสียงซึ่งพิเศษด้วยการปรับระดับเสียงแบบ SWIPE ปรับลดเสียงได้ด้วยการสัมผัส ติดตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ในรุ่น RS มีแพดเดิลชิฟท์ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์

ในขณะที่ Ford Focus Ecoboost ติดตั้งระบบพวงมาลัยแบบมัลติฟังค์ชั่นที่มาพร้อมสวิตช์ควบคุมและสั่งการระบบต่างๆ อาทิ แพดเดิลชิพท์ และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แต่ชุดแดชบอร์ดยังคงใช้แบบอนาลอค ในรูปแบบของมาตรวัดความเร็วแบบทรงกลม 2 ช่อง

Honda Civic Turbo ติดตั้งเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายด้วยการควบคุมเพียงปลายนิ้วสัมผัส อาทิ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch ควบคุมฟังก์ชั่นความบันเทิง พร้อมระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth) และช่องเชื่อมต่อ USB ที่รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay

จุดเด่นของ Ford Focus Ecoboost อยู่ที่ระบบสั่งงานด้วยเสียงเวอร์ชั่นล่าสุด SYNC 3 พร้อมการเชื่อมต่อ Bluetooth และ Wi-fi รองรับแอพพลิเคชั่น Apple Car Play และ Siri Eyes Free สำหรับไอโฟน รวมถึง แอนดรอยด์ ออโต้ เพื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนระบบเอนดรอยด์ แสดงผลการทำงานผ่านจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว

ก่อนที่จะเข้าสู่เรื่องสมรรถนะ มาดูฟังค์ชั่นเด็ดที่ติดตั้งในรถ 2 คันนี้กันก่อนครับ เริ่มที่  Honda Civic Turbo ทั้งสองรุ่น ติดตั้งระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศจากกุญแจรีโมท หรือ Engine Remote Start เป็นฟังค์ชั่นใหม่ที่สั่งการได้จากระยะไกล เพื่อใช้สำหรับอุ่นเครื่องและปรับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารให้เย็นสบายล่วงหน้าก่อนออกเดินทางในขณะที่ประตูรถยังคงล็อกอยู่เช่นเดิม และรถจะไม่สามารถออกตัวได้จนกว่าผู้ขับจะเข้าไปสตาร์ทรถตามปกติ

Ford Focus Ecoboost ไม่มีระบบสตาร์ทเครื่องด้วยกุญแจรีโมท แต่ทดแทนด้วยระบบ Mykey ช่วยให้กำหนดค่าต่างๆ เช่นความเร็วสูงสุด และ ระดับความดังของเครื่องเสียง เพื่อหยุดความซ่าส์ของนักซิ่งภายในบ้าน พ่วงด้วยฟังค์ชั่นกุญแจอัจฉริยะที่ไม่ต้องเสียเวลาควานหาในกระเป๋า เพียงแค่กุญแจอยู่ในตัวก็สามารถเปิดรถเข้าออกได้ รวมถึงเหยียบเบรคพร้อมกดปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ทันที

ระบบเพื่อความปลอดภัยของ Honda Civic Turbo นอกจากเบรกมือไฟฟ้า Electric Parking Brake ระบบ Auto Brake Hold และระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ สำหรับรุ่น Turbo RS มีฟังค์ชั่น HONDA LANE WATCH ที่บันทึกจากกล้องขนาดจิ๋วบริเวณกระจกมองข้างด้านซ้ายทุกครั้งเมื่อยกก้านไฟเลี้ยวซ้าย รวมถึงแสดงภาพเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลังเพื่อความปลอดภัยในการถอยจอด

Ford Focus Ecoboost จัดเต็มให้กับเทคโนโลยีในรูปแบบ Active Park Assist ได้แก่ ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะแบบ ถอยเข้าซอง และระบบช่วยจอดอัจฉริยะแบบเทียบข้าง ซึ่งผู้ขับขี่ไม่ต้องบังคับหรือควบคุมพวงมาลัย เพียงแค่กดสวิทช์ เข้าเกียร์และหยุดรถ ระบบจะทำการค้นหาช่องจอดให้อัตโนมัติพร้อมกับควบคุมพวงมาลัยเพื่อให้รถเข้าในพื้นที่จอดได้อย่างแม่นยำ รวมถึงมีระบบช่วยเบรกในความเร็วต่ำ Active City Stop ทำงานที่ความเร็วไม่เกิน 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจะช่วยลดแรงบิดของเครื่องยนต์และทำการเบรกอัตโนมัติเพื่อชะลอการชนในกรณีที่รถเข้าใกล้รถคันหน้าเร็วเกินไป

ทีนี้ก็มาถึงในด้านของขุมพลัง Honda Civic Turbo ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC VTEC TURBO ใหม่ พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ ซึ่งทั้งเครื่องยนต์และระบบเกียร์ดังกล่าวได้รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 220 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 – 5,500 รอบต่อนาที ซึ่งให้กำลังเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร แต่มีอัตราการประหยัดน้ำมันเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร พร้อมติดตั้งระบบรองรับด้านหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังมัลติลิ้งค์มาพร้อมเหล็กกันโคลงเช่นกัน

Ford Focus Ecoboost ใช้เครี่องยนต์ Ecoboost Turbo ปรับปรุงระบบเทอร์โบชาร์จ หัวฉีดแบบไดเรคอินเจคชั่น และแคมชาฟท์แบบอิสระคู่ รวมถึงเสื้อสูบอลูมิเนียมช่วยลดน้ำหนักและเพิ่มสมรรถนะ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลัง 180 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที และ แรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตรที่ 1,600-5,000 รอบต่อนาที เปลี่ยนระบบส่งกำลังจาก Dual Cluth เป็นอัตโนมัติ Torque Converter แบบ 6 จังหวะ เน้นไปที่พละกำลังซึ่งเทียบเท่าได้กับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร มากับสมรรถนะด้านการยึดเกาะด้านหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบอิสระคอนโทรลเบรด มัลติลิงค์และคอยล์สปริง

เปรียบเทียบทุกมุมมอง ทีนี้ก็มาถึงการทดลองขับ งานนี้หวดกันแบบไม่ยั้ง อยากรู้ว่าเทอร์โบในรถบ้านขนาดพิกัดเครื่องยนต์1.5 ลิตร จะมีดีขนาดไหนมาดูบททดสอบเพื่อนำไปเป็นข้อมูลสำหรับวิเคราะห์เลยดีกว่าครับ

ในด้านของสมรรถนะ รถทั้ง 2 คันมีพิกัดเครื่องยนต์ที่เท่ากันคือ 1.5 ลิตร แต่ Focus เป็นต่อในด้านแรงม้าและแรงบิดอยู่เล็กน้อย คือ 180 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที และ แรงบิดสูงสุดที่ 240 นิวตันเมตรที่ 1,600-5,000 รอบต่อนาที ส่วน All-New Civic อยู่ที่ 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 220 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 – 5,500 รอบต่อนาที ทั้ง 2 คัน ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาประมาณ 9 วินาที

 

Ford Focus Ecoboost ขับสนุก

สาเหตุหลักที่ทำไมถึงเป็น Ford ต้องบอกว่าทั้งหมดต้องยกความดีความชอบให้กับระบบเกียร์ Torque Converter 6จังหวะ ตอบสนองต่ออัตราเร่งได้อย่างห้าวหาญ พร้อมสนุกสนานไปกับเล่นเกียร์แบบแพดเดิลชิพท์ซึ่งติดตั้งมาเพื่อแก้ไขในส่วนของการรอรอบ ถ้าใช้งานโหมด Sport เมื่อไหร่ รอบเครื่องยนต์จะรอการกระแทกคันเร่งให้รถพุ่งทะยานไปได้อย่างรุนแรงและรวดเร็ว ตรงนี้ยังมีข้อติติงเนื่องจากเสียงเครื่องยนต์ยังคำรามและรอบเครื่องยนต์ค่อนข้างสูง หากมีระบบเกียร์แบบ 7 จังหวะ ผมคิดว่าสิ่งที่ผมสัมผัสได้คงหายไปแน่นอน

ระบบช่วงล่างกลับไม่แมทช์กับความแรงเท่าที่ควร เพราะออกแบบมาเพื่อความนุ่มสบาย ทางแก้ของฟอร์ดจึงได้คิดค้นเทคโนโลยีที่มีชื่อว่าTorque Vectoring Control ทำงานโดยเบรคล้อด้านในอัตโนมัติขณะเข้าโค้ง เพื่อลดอาการ Under Steer ที่มักเกิดขึ้นกับรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าทำหน้าที่ควบคู่ไปกับ Traction Control เสมือนนำมาอุดช่องโหว่ของระบบช่วงล่างที่ดูนุ่มนวลไปสักนิดเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะค่อนข้างสูง

การยึดเกาะถนน Honda Civic Turbo สบายใจหายห่วง

อย่างไรก็ตาม ใช่ว่า Honda Civic Turbo จะไม่ใช่รถที่ขับสนุก ความคิดเห็นของผมคือระบบเกียร์แบบ CVT ที่ติดตั้งมากับเครื่องยนต์ Vtec Turbo ไม่ได้มีส่วนสนับสนุนให้รถคันนี้ซ่าส์ได้อย่างเมามัน กลับกลายเป็นความนุ่มนวลเข้ามาแทนที่ ด้วยเหตุนี้ทีมผู้ออกแบบจึงนำระบบแพดเดิลชิฟท์มาติดตั้ง เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้เพิ่มความสนุกซึ่งสามารถเลือกปรับและลดเกียร์ได้ตลอดเวลา แรงม้าที่ต่างกับ Focus เพียง 7 ตัว กับแรงบิดอีกเล็กน้อย ไม่ได้เป็นส่วนที่เสียเปรียบชนิดที่เรียกว่าคนละชั้น

“จุดเด่นกลับมาอยู่ที่ระบบช่วงล่าง” ขยายความในส่วนนี้กันสักนิด หลายคนคงรู้ว่านอกจากรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบ ยังมีในรุ่น 1.8 L ที่เป็นรูปลักษณ์เดียวกัน โดยรวมแล้วระบบช่วงล่างของ Honda Civic Turbo ทั้ง 2 รุ่น จะใช้แบบเดียวกันแต่ในรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบ ให้ความพิเศษไปที่โช๊คอัพและสปริงซึ่งได้รับการปรับแต่งเพื่อสนองกับความแรงของเครื่องยนต์ที่มีกำลังสูงขึ้น รวมถึงมีเหล็กแท่งยาวๆทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างโช๊คอัพทั้งด้านซ้ายและขวา หรือรู้จักกันในชื่อ “สตรัทบาร์” ฉะนั้นสมรรถนะของระบบช่วงล่างที่ได้รับการปรับแต่งใหม่จึงให้ความโดดเด่นไปที่ความหนึบ แน่น และไม่นุ่มนวลจนเกินไป

รถคันไหนคือคำตอบของคำว่า “ใช่” ในสไตล์คุณ

Ford Focus Ecoboost

เป็นรถที่ให้การขับขี่ที่สนุกสนาน เครื่องยนต์แรง อัตราเร่งมาไว ระบบเกียร์รองรับการขับขี่ในรูปแบบสปอร์ตได้อย่างตรงประเด็น รอบเครื่องยนต์ที่ค่อนข้างสูงรอการกระแทกคันเร่งเพื่อพุ่งทะยานไปข้างหน้าแต่มองอีกมุมในด้านของความประหยัดสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงซึ่งแน่นอนว่ามีการบริโภคที่เป็นไปตามรอบเครื่องยนต์

จุดเด่นในด้านตัวช่วยเพื่อความสะดวกสบายในรูปแบบ Active Park Assist แต่ในข้อดีอาจกลายเป็นจุดด้อยเพราะต้องก้าวข้ามความกลัวและเชื่อมั่นในระบบอัตโนมัติหลากรูปแบบ ถ้าถามว่าระบบไหนใช้ประโยชน์ได้จริงจังคงเป็นในส่วนของ Active City Stop หรือระบบช่วยเบรกในความเร็วต่ำ ระบบนี้จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี เพราะหากเผลอ เหม่อลอย ในขณะขับขี่ในการจราจรที่พลุกพล่าน

Honda Civic Turbo

แม้ว่าจะตกเป็นรองในด้านขุมพลังเล็กน้อย อันที่จริงถ้ามีระบบเกียร์ที่ไม่ใช่ CVT อาจจะสูสีกับคู่แข่งอย่างชนิดที่ว่าแยกไม่ออก ตรงส่วนนี้ถ้าทำความเข้าใจว่าพื้นฐานของรถในรูปแบบ “พรีเมี่ยมซีดาน” ที่เน้นไปที่ความสะดวกสบาย หรูหรา จึงเลือกใช้ระบบเกียร์ที่ให้ความนามนวลเป็นหลัก แต่การขับขี่ในด้านสมรรถนะการยึดเกาะค่อนข้างทำมาดีและมั่นใจได้

ระบบช่วยเหลือเพื่อความสะดวกสบายอย่าง  ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศจากกุญแจรีโมท หรือ Engine Remote Start เป็นอะไรที่เหมาะสมกับการใช้งานในบ้านเรา เนื่องจากช่วยลดความร้อนสะสมทั้งยังไม่ต้องทนร้อนในขณะที่รถจอดตากแดดเป็นเวลานาน อีกหนึ่งระบบคือ HONDA LANE WATCH ซึ่งนอกจากช่วยลดุมมมองที่ไม่สามารถมองเห็นทั้งด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม จึงเป็นที่มาของการลดการเกิดอุบัติเหตุตามท้องถนนได้เป็นอย่างดี

ทิ้งท้ายในส่วนนี้ไว้เพื่อช่วยตัดสินใจ สิ่งที่ผมไม่ฟันธงว่าคันไหนมาเป็นเบอร์หนึ่ง เพราะทั้ง New Ford Focus 1.5L Ecoboost Turbo Sport และ ALL NEW HONDA CIVIC 1.5 Vtec Turbo ถือว่าเป็นคู่แข่งที่สมศักดิ์ศรี ทีนี้ขอให้การตัดสินใจทั้งหมดไปอยู่ที่ผู้อ่านซึ่งกำลังตัดสินใจเลือกซื้อตามสไตล์ความชอบของตัวเอง

หากยังไม่มั่นใจ ทั้ง ฮอนด้า และ ฟอร์ด ทุกโชว์รูมต่างมีรถให้ทดลองขับ ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อไปลองขับกันสักนิด เพราะการลงทุนด้วยเม็ดเงินกว่า 1 ล้านบาท ควรจะได้มาเพื่อสิ่งที่ดีและถูกใจเป็นที่สุด

RELATED ARTICLES

Most Popular